เปิดมุมทริปถ่ายรูปเปลี่ยนโปรไฟล์สไตล์คลาสสิค…แบบพระนคร
#5คาเฟ่กับ2ที่เที่ยวย่านพระนครฉบับความคลาสสิคที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
ทริปนี้เราได้ใช้เวลา 1 วันในย่านพระนคร
ลัดเลาะรอบกรุงเก่า ชมความงามระหว่างทาง
แวะเที่ยวคาเฟ่เปิดใหม่ที่มีความคลาสสิคไม่แพ้กัน
กับ Lambretta V200 special รถระดับตำนานจากอิตาลี
ที่พาเราเที่ยวชมเสน่ห์รอบกรุงได้แบบเท่ๆ
ไฮไลท์ทริป
Craftsman Roastery
Pompano Café
Lambretta Thailand Café
Ha Tien Cafe
Petit Soleil
หอนาฬิกาหลวง
ท่ามหาราช
เป็น 1 วันในย่านพระนครที่คุ้มค่ามาก
และผมอยากชวนคุณไปสัมผัสความคลาสสิคด้วยกัน
ทริปนี้พาเที่ยวย่านพระนครกันครับ สำหรับผมย่านนี้เป็นย่านเก่าแก่ที่มีความคลาสสิคมาก และมีสถานที่สวยงามเยอะเลย ทริปนี้จะพาเที่ยวรอบพระนครและเที่ยวคาเฟ่สุดคลาสสิค คัดมาแล้วว่าสวยทุกร้าน
ยิ่งเมื่อได้ขับ สกู๊ตเตอร์ Lambretta V200 Special มาเที่ยวด้วยแล้ว สะดวกมาก เพราะหาที่จอดง่าย ประหยัดเวลา และได้ความคลาสสิคแบบLambretta ที่เข้ากับทริปพระนครได้อย่างลงตัวมาก
สกู๊ตเตอร์ระดับตำนานจากอิตาลี อย่าง Lambretta V200 Special สีส้ม Sicilian Orange สไตล์เรโทร เหมาะกับทริปสุดคลาสสิคที่พระนครของเรามากครับ
และเพื่อให้ได้ฟีลเที่ยวแบบคลาสสิค มู้ดโทนภาพที่ใช้ก็ปรับให้เป็นฟีลแบบคลาสสิคย้อนยุคกันไปด้วยเลย ก็จะได้ฟีลแบบเรโทรเท่ๆนะครับ
ขับสกู๊ตเตอร์มาเที่ยวก็จะได้สัมผัสบรรยากาศระหว่างทางได้ง่ายหน่อย ยิ่งมาในย่านที่ที่จอดรถน้อย หายาก ก็จะสะดวกมากครับ
ตรงนี้คือ”หอนาฬิกาหลวง”นะครับ จะอยู่ตรงข้ามกับวัดพระแก้วนะครับ เป็นโลเคชั่นที่สวยมากเลย
Craftsman Roastery
ถ้ามาย่านพระนครก็ไม่พลาดที่จะแวะคาเฟ่เปิดใหม่อย่าง Craftsman Roastery ที่นี่เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในอาคารโรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจนะครับ เป็นอาคารเก่าแก่เลย ภายนอกเลยมองเหมือนตึกร้าง แต่พอเข้าไปแล้ว จะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศมากครับ เพราะสวยคลาสสิคแบบสุดๆ
และที่ดีมากก็คือเครื่องดื่มและขนม บอกเลยว่าต้องมาลอง อร่อยทุกอย่างเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนมาเยอะ
ขอทำมู้ดเท่ๆได้ฟีลแบบคลาสสิคให้เข้ากับร้านไปเลยสิครับ
เป็นร้านที่เท่มาก และมีมุมถ่ายรูปเยอะจริงๆ สำหรับที่นี่ Craftsman Roastery
เวลาเปิดปิด: จ-พฤ 7.30-18.00 น. / ศ-อา 7.30-22.00 น.
และอีกความคลาสสิคที่เข้ากับร้านมากก็คือสกู๊ตเตอร์ Lambretta V200 Special นี่ล่ะครับ ด้วยดีไซน์และรูปทรงที่สวยงามสไตล์เรโทร ที่มาพร้อมกับชุดอแต่งแบบจัดเต็ม และสี Sicilion Orange หรือส้มสด ฉ่ำ เวลาถ่ายรูปมาก็สวยมาก โดดเด่นสุดๆ
นอกจากนี้ Lambertta V200 Special เบาะที่นั่งยังกว้าง สามารถนั่งได้ 2 คนแบบสบายๆ ชวนเพื่อน ชวนแฟน ขับไปเที่ยวได้อย่างสบายๆตลอดการเดินทางเลยครับ
The Mustang Blu ที่เป็นทั้งโรงแรมและคาเฟ่
Pompano Café
มาถึงแล้วครับ ที่นี่คือ Pompano Café เป็นคาเฟ่เปิดใหม่สุดคลาสสิค ตัวร้านจะอยู่ชั้นล่างสุดนะครับ ที่ร้านไม่มีที่จอดรถนะ สามารถจอดริมถนนได้ และถ้าขับสกู๊ตเตอร์มาก็จะสะดวกหน่อย หาที่จอดไม่ยากครับ
ร้านเปิดทุกวัน
– วันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น.
– วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น.
ด้านในร้านไม่ใหญ่นะครับ แต่อัดแน่นด้วยดีเทลรายละเอียดการตกแต่งแบบวินเทจ ที่ถ้าใครชอบความวินเทจคลาสสิค ก็ถือเป็นอีกหนึ่งร้าน ที่ควรค่าแก่การแวะมานะครับ
ให้ดูบรรยากาศเต็มๆ ภายในร้าน สวยคลาสสิคมากเลยนะครับ ที่นั่งอาจจะไม่เยอะนะ
นั่งหน้าร้านแบบนี้ไปเลยก็ได้ ได้ดูบรรยากาศ ผู้คน คลาสสิคไปอีกแบบ
ร้านPompano Café เปิดทุกวัน
– วันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น.
– วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น.
ถ่ายผ่านlกระจกมองข้างของLambretta นะครับ กระจกใสชัด เก็บรายละเอียดด้านหลังได้ดีเลย
ไปถ่ายรูปเล่นมาหลายจุดแล้วยังไม่เหนื่อย ไปต่อได้อีก เพราะขับสกู๊ตเตอร์Lambretta เที่ยว ขับสนุก คล่องตัว นั่งสบายเบาะกว้าง แถมสีสันสวยงาม ขับไปไนก็โดดเด่นมาก แถมจุของได้เยอะ พกกระป๋าพกกล้องไปไหนต่อไหนก็สะดวกมากเลยครับ
ขับสกู๊ตเตอร์ Lambretta เที่ยวรอบกรุง ผ่านถนนมหาราชครับ พอทำมู้ดโทนแบบนี้ยิ่งได้บรรยากาศคลาสสิคย้อนยุคไปอีก
Lambretta Thailand Café
อีกหนึ่งร้านสุดเท่ที่จะพลาดไม่ได้ เพราะนี่คือร้าน Lambretta Thailand Café เป็นคาเฟ่ตกแต่งย้อนยุคสุดคลาสสิค ที่มีเครื่องดื่ม อาหาร และของตกแต่งที่เกี่ยวกับ Lambretta และยังเป็นศูนย์รวมของชาว Lambretta อีกด้วย ถ้าใครมาร้านนี้ก็จะเจอรถ Lambretta จอดอยู่หน้าร้านเสมอ
ร้านอยู่แถว ถนนพระสุเมรุ เขตพระนครนะครับ
เปิดทุกวันอังคาร-ศุกร์ 10:30-24:00 // เสาร์-อาทิตย์ 07:30-24:00 (ปิดทุกวันจันทร์)
นั่งชิลล์ได้ทั้งหน้าร้านและในร้านเลย
บรรยากาศในร้านก็จะตกแต่งย้อนยุคแบบนี้เลย ถ่ายรูปออกมาเท่นะ
มุมนี้ของร้านเท่ดี ได้มู้ดเหมือนหนังฝรังช่วง 60-70
านในก็จะตกแต่งด้วยของใช้ เรื่องราว ภาพถ่ายที่เกี่ยวกับ Lambretta ทั้งนั้นเลยครับ เหมือนเป็นมิวเซียมย่อมๆ ของคนรัก Lambretta เลยนะผมว่า
มีของใช้ ของตกแต่งที่เกี่ยวกับ Lambretta ขายด้วยนะครับที่นี่ ถ้าความเท่ ความคลาสสิค มาหาซื้อได้เลย
ถ่ายภาพหน้าร้านเป็นฟีลเท่ๆ แบบภาพขาวดำกับรถLambretta ดึความคลาสสิคสิครับ เข้ากันได้เป็นอย่างดี
าขับไปอยู่ในซอยหรือพื้นที่ที่แสงน้อย ไฟหน้าของ Lambretta ก็สว่างมาก ช่วยให้การมองทาง หรือวิสัยทัศน์ในการขับรถนั้นดีขึ้นง่ายขึ้นครับ
แวะมาเดินเล่น เก็บบรรยากาศและภาพสวยๆในโครงการท่ามหาราชครับ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใครมานั่งเรือข้ามฝั่ง มาท่านี้ก็สะดวกครับ
บรรยากาศยามเย็นริมน้ำของท่ามหาราชคือชิลล์มากเลย
Ha Tien Cafe’ Bangkokออกจากท่ามหาราชมาไม่ไกลเลย ก็มาถึงคาเฟ่ที่ 4 ของผมในทริปนี้ Ha Tien Cafe’ Bangkok ที่นี่ซ่อนอยู่ในท่าเตียนนะครับ เป็นร้านที่มีของของสะสมแบบแอนทีคมากๆ มีความคลาสสิค มี 2 ชั้น และมู้ดในร้านคือดีมาก เป็นอีกร้านลับๆในท่าเตียนที่อยากให้ทุกคนลองแวะมานะครับ
เป็นร้านที่มู้ดดีมาก ถ่ายรูปสนุกมาก ได้ฟีลแบบวินเทจสุดๆไปเลย
เครื่องดื่มและขนมก็ดีมากเช่นกัน ด้านในตกแต่งสวยงาม เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งเลย
บรรยากาศในคาเฟ่คลาสสิคมากเลย
ที่นี่มี 2 ชั้นนะครับ ชอบความคลาสสิคของบันไดมาก ใครชอบฟีลแบบนี้แวะมานะครับ
ร้านเปิดอังคาร-อาทิตย์ 10.00-18.00 น.
หยุดทุกวันจันทร์
Petit Soleil
อีกหนึ่งคาเฟ่สุดท้ายที่บรรยากาศดีไม่แพ้กัน Petit Soleil เป็นคาเฟ่เปิดใหม่ย่านพระทิตย์ครับ ตรงนี้เป็นทางเข้าร้านนะครับ อาจจะดูเหมือนเป็นทางเข้าเล็กๆ แต่ข้างในคือสวยมากครับ
ร้านอยู่ติดริมแม่น้ำแบบนี้เลยครับ
ทางเข้าน้านก็สวยคลาสสิคมากเลย ถ้าได้มาจะต้องชอบครับ
บรรยากาศภายในร้านมีที่นั่งหลายแบบ และเป็นกระจกใส เห็นวิวริมน้ำเจ้าพระยาแบบนี้เลย
ที่นั่งเอนหลังสบายๆแบบโซฟาก็มีนะครับ ถ่ายรูปมาสวยอีกต่างหาก
เดินไปชั้นบนกันครับ ชอบกระจกสีที่ให้มู้ดโทนที่ดูวินเทจมากครับ
จิบกาแฟแล้วก็มาเดินชมวิวสวยๆของริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากในร้านได้เลยครับ
เป็นหนึ่งวันดีๆที่ได้ขับสกู๊ตเตอร์ Lambretta ไปเที่ยวรอบพระนคร ได้แวะเที่ยวในหลายๆที่ที่ไม่เคยแวะมาก่อน เพราะพอขับ Lambretta ก็จอดสะดวก แวะเที่ยวง่าย ประหยัดน้ำมัน และได้ชมความสวยงามของกรุงเทพในแบบคลาสสิคด้วยครับ
